19 กันยายน 2557

การใช้ Passive Voice ในภาษาอังกฤษ


Passive Voice คือ รูปประโยคที่แสดงถึงการถูกกระทำ

เช่น

เขาโดนดุ หนังสือถูกอ่าน จานโดนล้าง จดหมายถูกเขียน ฯลฯ

ในภาษาอังกฤษ ไม่มีคำศัพท์ที่แปลว่า "โดน" หรือ "ถูก" เหมือนภาษาไทย แต่จะใช้โครงสร้างรูปประโยคแทนคำศัพท์พวกนี้เพื่อบอกว่าตอนนี้กำลังมีอะไรถูกกระทำอยู่

ซึ่งถ้าหากเราเห็นโครงสร้างนี้ในประโยคดังกล่าว ให้แปลได้เลยว่า "ถูกกระทำ" ครับ  


โครงสร้างของ Passive ง่ายมาก ตามด้านล่างเลย

Verb to be + Verb 3 = ถูกกระทำ (ส่วนกระทำอะไรก็แล้วแต่ความหมายของ Verb 3)
โดย Verb to be นั้นตามหลังประธานครับ และถ้าอยากบอกให้รู้ว่าถูกกระทำโดยใครก็ให้ใส่ by + คนที่ทำ ตามหลัง Verb 3 เราก็จะได้ดังนี้
คนถูกกระทำ + Verb to be + Verb 3 + by + คนกระทำ

โครงสร้างของ Passive มีแค่นี้ และใช้โครงสร้างนี้เหมือนกันหมดทุก Tense

แต่ว่า เพราะว่า Tense มีหลายกาลเวลา ตัว Verb to be เลยเปลี่ยนรูปไปตามกาลเวลาของ Tense นั้นๆ

สมมติว่าจะบอกว่า "จานถูกล้างโดยฉัน" เรามาดูกันครับว่าจะสามารถเขียนประโยคนี้เป็นภาษาอังกฤษในแต่ละ Tense ได้ยังไง


Present Simple 

เริ่มจาก Tense ที่ง่ายที่สุดก่อน 

1. อันดับแรกมาดูก่อนว่าใครหรืออะไรเป็นคนถูกกระทำ ในที่นี้คือ จาน แล้วทีนี้ก็แล้วแต่เราครับว่าเราจะล้างจานใบเดียว หรือหลายใบ ผมให้เป็นหลายๆใบละกัน เพราะฉะนั้นเราเลยได้ Dishes ขึ้นต้นประโยค

Dishes... 
(จาน...)
 
2. ต่อมาก็ให้ดูว่าจะใช้ Verb to be ตัวไหน ในที่นี้เป็น Present Simple แสดงว่าต้องใช้ Verb to be ช่องแรก นั่นคือ is หรือ are แต่ Dishes เป็นพหูพจน์ จึงต้องใช้ are 

Dishes are...  
(จานถูก...)

3.  เราได้ "จานถูก..." มาแล้วครับ ต่อไปเป็นคำว่า ล้าง คำว่าล้างภาษาอังกฤษคือ wash แต่ว่าในที่นี้ต้องเป็นช่อง 3 ตามโครงสร้างของ Passive เพราะฉะนั้นต้องเป็น washed

Dishes are washed...
(จานถูกล้าง...)
      
4. ขั้นตอนสุดท้ายคือเติมผู้กระทำลงไป คำแรกที่จะเติมก็คือ by (โดย) ส่วนคำที่สองก็คือ me (ฉัน) เราก็จะได้ "by me" ข้อสังเกตในขั้นนี้คือคำว่า ฉัน เป็น "me" ไม่ใช่ "I" นั่นเป็นเพราะว่าคำที่เป็น Pronoun ( I, you, we, they, he, she, it ) เมื่อต้องตามหลัง Preposition ( by, for, under, over, to, etc. ) จะต้องอยู่ในรูปกรรม ( me, you, us, them, him, her, it )

Dishes are washed by me.
(จานถูกล้างโดยฉัน)


จากขึ้นตอนทั้ง 4 ขั้นตอนจะเห็นได้ว่าถ้าหากเปลี่ยน Tense ทุกขั้นตอนจะใช้คำเหมือนกันหมด ยกเว้นขั้นตอนที่เดียว นั่นคือขั้นตอนที่ 2 เพราะต้องเปลี่ยนรูป Verb to be ตาม Tense นั้นๆ 

ขั้นตอนที่ 1 ยังไงจานก็เป็นจาน (Dishes/Dish) ไม่เกี่ยวกับ Tense ที่เปลี่ยนไป

ขั้นตอนที่ 3 ยังไง wash ก็ต้องเป็นช่อง 3 นั่นคือ washed ซึ่งไม่เกี่ยวกับ Tense ที่เปลี่ยนไป

และขั้นตอนที่ 4 ยังไงโดยฉันก็ต้องเติม "by me" ไม่เกี่ยวกับ Tense ที่เปลี่ยนไป

เพราะฉะนั้นใน Tense ที่เหลือ ผมจะโฟกัสที่ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนเดียว


Past Simple

Verb to be ต้องเป็นช่อง 2 นั่นคือ was หรือ were แต่ว่า Dishes เป็นพหูพจน์ เพราะฉะนั้น เลือก were จะได้ทั้งประโยคคือ

Dishes were washed by me.


Future Simple

เนื่องจากใน Future ประธานต้องตามด้วย will หรือ to be going to เพราะฉะนั้น Verb to be ที่จะตามหลัง will หรือ to be going to ได้มีแค่คำเดียว นั่นคือ "be"

Dishes will be washed by me.
Dishes are going to be washed by me.


Present Continuous

ใน Present Continuous ประธานต้องตามด้วย Verb to be (แล้วตามด้วย V.ing) เพราะฉะนั้น Verb to be ที่จะตามหลัง Verb to be ได้ (และเป็น V.ing ด้วย) มีแค่คำเดียวนั่นคือ "being"

Dishes are being washed by me.

จะเห็นว่าใน Tense นี้ โครงสร้าง Passive ก็ยังคงรูปโครงสร้างของ Present Continuous ไว้เหมือนเดิม นั่นคือ ประธาน ตามด้วย Verb to be แล้วตามด้วย V.ing (ในที่นี้คือ being) ส่วนส่วนที่เป็น Passive ก็ยังคงโครงสร้างของ Passive เพราะ being washed ก็คือ Verb to be + Verb 3


Past Continuous 

เหมือนกับ Present Continuous แต่ต่างกันตรงที่ Verb to be (ตัวแรก) ที่ตามหลังประธานต้องอยู่ในรูปอดีต

Dishes were being washed by me.


Future Continuous 

คล้ายๆกับ Present Continuous และ Past Continuous นั่นคือ ประธานใน Tense นี้ต้องตามด้วย will be และ Verb to be ที่จะมาตามหลัง will be (ตามหลัง be) ได้ก็คือ being เช่นเดิม

Dishes will be being washed by me.


Present Perfect

ใน Tense นี้ ประธานต้องตามด้วย have หรือ has และ Verb to be ที่จะมาตามหลัง have หรือ has ได้มีแค่คำเดียวนั่นคือ been (เพราะ been เป็น Verb ช่อง 3 และ have หรือ has ต้องตามด้วย Verb ช่อง 3)

Dishes have been washed by me.


Past Perfect

เหมือนกับ Present Perfect แต่ต่างตรงที่เปลี่ยนจาก have หรือ has ที่ตามหลังประธานเป็น had ส่วน Verb to be ที่สามารถตามหลัง had ได้ก็คือคำเดิม นั่นคือ been

Dishes had been washed by me.


Future Perfect

เหมือนกับ Present Perfect เป๊ะ เพราะประธานใน Tense นี้ต้องตามด้วย will have และ Verb to be ตามจะมาตามหลัง have ได้ก็คือ been ตัวเดิม

Dishes will have been washed by me.


Present Perfect Continuous

ส่วนของ Perfect Continuous จะคล้ายกันกับ Continuous เพราะประธานจะต้องตามหลัง ชุดของ Verb ที่จบลงด้วย Verb to be และเมื่อต้องจบลงด้วย Verb to be (สำหรับโครงสร้างของ Tense นั้นๆ) Verb to be (สำหรับโครงสร้างของ Passive) ที่เราต้องเลือกมาใส่ข้างหลังอีกทีก็ต้องเป็น being

ใน Present Perfect Continuous ประธานต้องตามหลังด้วย have been หรือ has been เพราะฉะนั้น Verb to be ที่ตามหลัง been ได้ก็คือ being 

Dishes have been being washed by me.

ทำไม Verb to be ที่ตามหลัง been ได้ ถึงเป็น being?

ลองมองมุมกลับนะครับ ใน Tense ของ Present Perfect Continuous นี้โครงสร้างของมันคือ

ประธาน + have/has + been + V.ing 

เช่น

He has been playing football since this morning
เขาเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เช้าแล้ว

นั่นคือ Verb ที่จะมาตามหลัง been ต้องเป็น V.ing และ being ก็ตอบโจทย์เคสนี้ครับ นั่นคือเป็นทั้ง V.ing (ถูกต้องตามโครงสร้างของ  Present Perfect Continuous) และเป็นทั้ง Verb to be (ถูกต้องตามโครงสร้างของ Passive)


Past Perfect Continuous

ประธานต้องตามหลังด้วย had been

Dishes had been being washed by me.


Future Perfect Continuous

ประธานต้องตามด้วย will have been

Dishes will have been being washed by me.






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น